วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

HW204 การวางแผนและดำเนินการจัดนำเที่ยว บทที่3

รถเมล์-เด็กท่องเที่ยว


บทที่3
ประเภทของการจัดนำเที่ยว
-----------------------------------------------------------------------------------------------------

การจัดนำเที่ยวโดยทั่วไป
การจัดนำเที่ยวทั่วไปสามารถจำแนกได้เป็น 2 ลักษณะใหญ่ๆ คือ
                1. จัดตามความต้องการของนักท่องเที่ยว การจัดนำเที่ยวประเภทนี้จะกำหนดงบประมาณต่างๆ ให้สนองตอบความต้องการของนักท่องเที่ยวให้มากที่สุด และสามารถสร้างความประทับใจ โดยการจัดกิจกรรมให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในการเดินทาง
                2. การจัดรายการนำเที่ยวที่เตรียมไว้แล้ว แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
2.1 Collective Tour คือการจัดรายการนำเที่ยวที่บริษัทนำเที่ยวเป็นผู้กำหนดรายการนำเที่ยวทั้งหมดเป็นแบบเหมสจ่าย (Package Tour)
2.2 Incentive Tour คือ การจัดนำเที่ยวโดยมีลูกค้าเป็นผู้มีส่วนร่วมในการกำหนดความต้องการในบางเรื่องหรือทุกเรื่อง
-----------------------------------------------------------------------------------------------------

การจัดนำเที่ยวที่เป็นสากล
1. การจัดนำเที่ยวในประเทศ (Domestic)
                เป็นการจัดนำเที่ยวที่นักท่องเที่ยวชาวไทยหรือชาวต่างประเทศที่มีถิ่นพำนักอยู่ในประเทศไทย ได้ท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวในเมืองไทย การจัดนำเที่ยวจะเป็นเช้าไป-เย็นกลับ หรือจัดในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ โดยส่วนใหญ่นิยมนำเที่ยวโดยรถโค้ช
2. การจัดนำเที่ยวเข้าประเทศ (Inbound Tour)
                เป็นการจัดนำเที่ยวให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย โดยบริษัทนำเที่ยวในต่างประเทศจะติดต่อสาขาประจำประเทศไทย โดยการจัดนำเที่ยวนี้สามารถทำได้ 2 วิธี คือ
                2.1 จัดตามความต้องการของบริษัทนำเที่ยวต่างประเทศ
                2.2 บริษัทนำเที่ยวไทยจัดเสนอขายบริการท่องเที่ยวต่างๆ ไปยังบริษัทนำเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งได้แก่
                     1) จัดเป็น Package Tour
                     2) จัดเป็น Package Tour สำหรับกลุ่มสนใจพิเศษ
                     3) จัดโปรแกรมนำเที่ยวสำหรับโอกาสพิเศษ หรือเทศกาล
                     4) จัด Pre-post Tour จัดนำเที่ยวก่อนหรือหลังการจัดประชุม
                     5) จัดโปรแกรมให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสสัมผัสกับสิ่งแวดล้อมท้องถิ่น
                     6) จัดโปรแกรมสำหรับรับประทานอาหารและผลไม้ไทย
                     7) จัดตามความต้องการขององค์กรหรือหน่วยงาน
                     8) จัดบริการรับส่ง Transfer-In, Transfer-Out
3. การจัดนำเที่ยวนอกประเทศ (Outbound Tour)
เป็นการจัดนำเที่ยวที่นำนักท่องเที่ยวไทยออกไปเที่ยวนอกประเทศ โดยบริษัทนำเที่ยวจะติดต่อผ่านบริษัทนำเที่ยวในต่างประเทศ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------

การจัดนำเที่ยวโดยแบ่งตามขนาด
                1. Foreign Independent Tour or Free Independent Travelers (FIT) เป็นการจัดนำเที่ยวส่วนบุคคล หรือครอบครัวมากกว่าจะจัดเป็นกลุ่ม เป็นการจัดนำเที่ยวพิเศษ
                2. Group Inclusive (GIT) คือการจัดนำเที่ยวแบบกลุ่มให้กับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางกับบริษัทนำเที่ยว โดยการจัดนำเที่ยวนี้อาจแยกได้ 2 ประเภท คือ
                - กรุ๊ปจัด คือ การจัดนำเที่ยวให้กับลูกค้าที่มาจากการซื้อทัวร์หน้าร้าน
                - กรุ๊ปเหมา คือ การจัดนำเที่ยวให้กับลูกค้าที่ต้องการเดินทางเป็นหมู่คณะ เฉพาะคณะของตน

-----------------------------------------------------------------------------------------------------

การจัดนำเที่ยวตามวิธีการ
1. การจัดนำเที่ยวแบบเหมาจ่าย (Package Tour)
เป็นลักษณะการจัดทัวร์สำหรับหมู่คณะตั้งแต่ 5-10 คนขึ้นไป (ท่องเที่ยวในหมู่เพื่อนสนิท ญาติมิตรในครอบครัว) นอกจากนี้ยังสามารถรับจัดประชุม สัมมนา ดูงานสำหรับโรงงาน  ห้างร้าน บริษัท หน่วยงานราชการ นอกจากนี้ยังอาจรับจัดทัวร์สำหรับกลุ่มที่สนใจเฉพาะเรื่อง เช่น ทัวร์ปีนเขา ทัวร์ดำน้ำ ดูนก เปป็นต้น แบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท
                1.1 ทัวร์นำเที่ยวเหมาจ่ายอิสระ เป็นการจัดนำเที่ยวแก่นักท่องเที่ยวที่ต้องการอิสระในการท่องเที่ยวเอง มีการเลือกซื้อสินค้ากับบริษัทนำเที่ยวตามความต้องการ เช่น ตั๋วเครื่องบิน ที่พัก การบริการรับส่ง
                1.2 ทัวร์นำเที่ยวเหมาจ่ายพร้อมบริการ เป็นการจัดนำเที่ยว ที่นักท่องเที่ยวซื้อสินค้า บริการ ในราคาเหมาจ่าย ณ จุดปลายทางแต่ละแห่ง
                1.3 ทัวร์นำเที่ยวเหมาจ่ายพร้อม "มีเพื่อนเดินทาง" หมายถึงบุคคลากรของบริษัทนำเที่ยวที่เดินทางไปพร้อมกับกลุ่มทัวร์
2. การจัดนำเที่ยวแบบเบ็ดเสร็จ (Inclusive Tour) คล้ายกับ Package Tour เพียงแต่เป็นการจัดนำเที่ยวที่มีกำหนดการนำเที่ยวตั้งแต่ออกเดินทางจนถึงการเดินทางกลับที่แน่นอน
3. การจัดนำเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล (Incentive Tour) เป็นการจัดนำเที่ยวให้กับหน่วยงาน หรือพนักงานของหน่วยงาน เพื่อเป็นโบนัส รางวัล หรือค่าตอบแทนในความสำเร็จ
4. การจัดนำเที่ยวแบบเช่าเหมาลำ (Charter Tour) นิยมในการจัดนำเที่ยวระหว่างประเทศ โดยบริษัทนำเที่ยวจะเช่าเหมาเครื่องบินทั้งลำ เพื่อรับนักท่องเที่ยวจากจุดหมายหนึ่งไปยังอีกจุดหมายปลายทางหนึ่ง

-----------------------------------------------------------------------------------------------------

การจัดนำเที่ยวตามลักษณะจุดหมายปลายทาง
1. การจัดนำเที่ยวในเมือง หรือการเที่ยวชมเมือง (City Tour) การเที่ยวชมสภาพแวดล้อมภายในตัวเมือง เยี่ยมชมสถานที่สำคัญของเมือง การจัดนำเที่ยวลักษณะนี้จะมีมัคคุเทศก์ท้องถิ่นเป็นผู้บรรยายภายในรถโดยสาร เพื่อให้ทราบว่าสองข้างทางที่ผ่านมีอาคาร ร้านค้า ย่านสำคัญอะไรบ้าง
2. การจัดนำเที่ยวชมสถานที่หรือเที่ยวชมภูมิทัศน์ (Sightseeing Tour หรือ Excursion Tour) การเที่ยวชมแหล่งท่องเที่ยวที่มีจุดเด่นทางการท่องเที่ยวตามธรรมชาติหรือมนุษย์สร้างขึ้น ซึ่งขณะเดินทางจะมีโอกาสเพลิดเพลินกับทิวทัศน์สองข้างทางที่ผ่านไปด้วย
3. การจัดนำเที่ยวแลห่งบันเทิงยามราตรี (Night Tour) การเที่ยวชมความงามของแสงสีเสียงยามราตรี และเที่ยวกลางคืนตามสถานบันเทิงเริงรมย์ ของการแสดง คอนเสิร์ต เป็นต้น
4. การจัดนำเที่ยวโดยเน้นการซื้อของ (Shopping Tour) การเที่ยวจับจ่ายซื้อของไม่ว่าจะเป็นของใช้ อุปโภค บริโภค ของที่ระลึก ของฝาก ทำให้นักท่องเที่ยวมีโอกาสศึกษาวิธีการทำหรือผลิตสินค้าพื้นเมือง รวมถึงการซื้อของในห้างสรรพสินค้า

-----------------------------------------------------------------------------------------------------

การจัดนำเที่ยวตามวัตถุประสงค์
มีลักษณะคล้ายกับการจัดนำเที่ยวโดยทั่วไป คือ สามารถแบ่งได้เป็น 2 ลักษณะ ได้แก่
1. การจัดนำเที่ยวตามวัตถุประสงค์ของบริษัท
2. การจัดนำเที่ยวตามวัตถุประสงค์ของนักท่องเที่ยว

ประเภทของนักท่องเที่ยวตามวัตถุประสงค์ คือ
1. กลุ่มที่เดินทางไปพักผ่อนหาความสนุกสนานเพลิดเพลิน
2. กลุ่มที่เดินทางไปทำธุรกิจ เช่น ประชุม สัมนา
3. กลุ่มที่เดินทางโดยมีจุดมุ่งหมายพิเศษ เช่น เดินป่า ดำน้ำ เล่นสกี ตีกอล์ฟ การศึกษา และจารึกสแวงบุญ

รูปแบบการท่องเที่ยวตามวัตถุประสงค์
- การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable Tourism) การท่องเที่ยวทีมีเจตนาจะสร้างผลกระทบให้น้อยที่สุดต่อสภาพแวดล้อม และวัมนธรรมของผู้อยู่อาศัยในชุมชนนั้นๆ แต่ยังสามารถเพิ่มงาน เพิ่มรายได้ให้กับชุมชนได้
- การท่องเที่ยวโดยชุมชน (Community Based Tourism-CBT) การท่องเที่ยวที่คำนึงถึงความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม สังคมและวัฒนธรรม กำหนดทิศทางโยดชุมชน จัดการโดยชุมชน เพื่อชุมชน และชุนมีบทบาทเป็นเจ้าของ มีสิทธิ์ในการจัดดูแลเพื่อให้เกิดการเรียนรู้แก่ผู้มาเยือน
- การนำเที่ยวชนบท (Rural Tour) เป็นการท่องเที่ยวที่มีโอกาสสัมผัสวิถีชีวิตและสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างอย่างตรงกันข้ามกับที่ปรากฏในเมือง
- การท่องเที่ยวเนิบช้า (Slow Tourism)










วันพฤหัสบดีที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

HW204 การวางแผนและดำเนินการจัดนำเที่ยว บทที่2



บทที่2 
องค์ประกอบในการวางแผนจัดรายการนำเที่ยว
-----------------------------------------------------------------------------------------------------

องค์ประกอบของการจัดรายการนำเที่ยว
หลักในการวางแผนจัดนำเที่ยว สิ่งที่ต้องคำนึงคือ ข้อมูลเรื่ององค์ประกอบในการจัดนำเที่ยว ประกอบกับการได้สำรวจเส้นทางเพื่อนำมาพิจารณาองค์ประกอบต่างๆ ในการจัดนำเที่ยว
องค์ประกอบของรายการจัดนำเที่ยว ได้แก่
1. พาหนะที่ใช้นำเที่ยว
2. โรงแรมหรือที่พัก
3. ภัตตาคารหรือร้านอาหาร
4. สิ่งดึงดูดใจทางการท่องเที่ยว
5. การบริการนำเที่ยวจากหัวหน้าทัวร์หรือมัคคุเทศก์
6. แหล่งซื้อของ

1. ยานพาหนะ (Transportation)
                ยานพาหนะนับเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในธุรกิจนำเที่ยว เพราะเป็นเครื่องอำนวยความสะดวกในการนำนักท่องเที่ยว ให้เดินทางท่องเที่ยวไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ถ้ามียานพาหนะดีนักท่องเที่ยวก็จะชมว่าบริษัทดีตามไปด้วย โดยยานพาหนะที่นิยมใช้ในการท่องเที่ยวได้แก่
                1.1 พาหนะในการจัดนำเที่ยวทางบก
                                1.1.1 รถโค้ช
                                ปัจจุบันได้รับการพัฒนาให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้นในด้านขนาด รุ่น และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ซึ่งได้แก่ ห้องน้ำที่มีอุปกรณ์ครบครัน มินิบาร์ มีหน้าต่างกว้างสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้กว้างขวางมากขึ้น โดยรถโค้ชที่มีบริการอยู่ในประเทศไทยมีหลายขนาด สามารถรองรับผู้โดยสารได้ตั้งแต่ 20 คน จนถึง 60 คน มีตั้งแต่หนึ่งขั้น ชั้นครึ่ง และสองชั้น
                                1.1.2 รถตู้
                                ในปัจจุบันการจัดนำเที่ยวไปยังแหล่งท่องเที่ยวที่มีสภาพการเข้าถึงที่ยากลำบาก สภาพทางที่เป็นเนินขึ้นเขา ทางที่แคบ รถโค้ชไม่สามารถขับเข้าถึงได้ หรือการจัดนำเที่ยวให้กลุ่มนักท่องเที่ยวที่เป็นครอบครัวหรือกลุ่มขนาดเล็ก
                                1.1.3 รถไฟ
                                รถไฟมีความสามารถในการบันทุกผู้โดยสารได้มาก ในระยะหลังได้พัฒนาให้เป็นรถไฟสำราญเพื่อการท่องเที่ยว โดยเพิ่มห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องพักผ่อน โทรทัศน์ วีดีทัศน์ เป็นต้น
                                การจัดนำเที่ยวโดยรถไฟ ผู้จัดนำเที่ยวจะต้องคำนึงถึงระยะทาง และสถานีที่จะขึ้น-ลงรถไฟ
                1.2 พาหนะในการจัดนำเที่ยวทางอากาศ
                เป็นพาหนะที่ดีที่สุดสำหรับเดินทางระยะไกลๆ โดยเครื่องบินในปัจจุบันสามารถบรรทุกผู้โดยสารได้เป็นจำนวนมาก การจัดนำเที่ยวโดยเครื่องบินแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ
                                1.2.1 การจัดนำเที่ยวในสายการบินบริการแบบประจำ
                                1.2.2 การจัดนำเที่ยวในสายการบินบริการเช่าเหมาลำ
                                                - การเช่าเหมาลำในโอกาสต่างๆ
                                                - การเช่าเหมาลำเพื่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวหลายๆแห่ง
                                                - การเช่าเหมาลำเพื่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวใดแหล่งท่องเที่ยวหนึ่งเป็นประจำ
                1.3 ยานพาหนะในการจัดนำเที่ยวทางน้ำ
                เรือเป็นยานพาหนะที่นำมาใช้ในการเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น แต่การเดินทางทางเรือเพื่อการท่องเที่ยวจะเสียค่าใช้จ่ายค่อนค่างสูง เพราะต้องใช้เวลาในการเดินทางอยู่ในเรือนานกว่ายานพาหนะประเภทอื่นๆ การเดินทางโดยเรือได้พัฒนาให้มีความก้าวหน้าเป็นเรือขนาดใหญ่ และสามารถบรรทุกผู้โดยสารได้นับพันคน นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกทางเรือครบครัน เช่น เรือสำราญได้ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวแบบครบวงจร นอกจากจะเป็นพาหนะที่นำนักท่องเที่ยวไปยังจุดหมายปลายทางแล้ว ยังเป็นที่พักแรมสำหรับตากอากาศไปในตัว
                การเดินทางทางเรือมีหลายลักษณะ ผู้ที่จัดนำเที่ยวจะต้องพิจารณาเลือกให้กับวัตถุประสงค์ของการจัดนำเที่ยว ซึ่งอาจจะจัดได้หลายวิธี ดังนี้
                1. เดินทางโดยเรือตลอดระยะเวลาของการนำเที่ยว
                2. เดินทางโดยเรือในบางจุดหมายปลายทางหรือบางเมือง
                3. เดินทางโดยเรือเพื่อต่อไปยังอีกจุดหมายปลายทางหนึ่ง
                4. เดินทางโดยเรือเพื่อชมทิวทัศน์
                
                1.4 พาหนะในการจัดนำเที่ยวอื่นๆ
                ตัวอย่างรายการนำเที่ยวที่อาจจะใช้ยานพาหนะอื่นๆ
                - รายการนำเที่ยวรถรางรอบเกาะรัตนโกสินทร์
                - รายการนำเที่ยวชมวิวรอบเกาะลังกาวีโดยกระเช้าไฟฟ้า
                - รายการนำเที่ยวขี่จักรยานภูเขาชมผีเสื้อ ณ ดอยอินทนนท์
                - รายการนำเที่ยวโดยรถม้าเพื่อชมลำปาง
                - รายการนำเที่ยวเสริมเชิงนิเวศต่างๆ เช่น ขี่ช้าง ล่องแพ
                - รายการนำเที่ยวทางทะเลโดยการพายเรือแคนู
                - รายการนำเที่ยวโดยการล่องแก่งเรือยางในสายน้ำที่ท้าทายความสามารถ

2. โรงแรมหรือที่พัก (Hotel or Lodging)
                การเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวนอกจากยานพาหนะแล้ว ที่พักแรมนับเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับการท่องเที่ยว เพราะการท่องเที่ยวที่เหน็ดเหนื่อยในแต่ละวันแล้ว นักท่องเที่ยวก็ย่อมต้องการที่พักที่สะดวกสบาย โดยที่พักแรมที่บริษัทนำเที่ยจะเลือกใช้บริการสามารถแบ่งออกได้หลายประเภท
          ประเภทของโรงแรมหรือที่พัก
                2.1 โรงแรมประเภทธุรกิจ (Commercial Hotels)
                2.2 โรงแรมประจำท่าอากาศยาน (Airport Hotels)
                2.3 โรงแรมประเภทห้องชุด (Suite Hotels)
                2.4 โรงแรมประเภทพักอาศัย (Residential Hotels)
                2.5 โรงแรมเพื่อการพักผ่อน (Resort Hotels)
                2.6 โรงแรมประเภทที่พักกับอาหารเช้า (ฺBed and Breakfast Hotels- B&B)
                2.7 โรงแรมแบบคอนโดมิเนียม (Condominium Hotel)
                2.8 โรงแรมคาสิโน (Casino Hotels)
                2.9 โรงแรมเพื่อการประชุม (Convention Hotels)
                2.10 โรงแรมบูติค (Boutique Hotels)
                2.11 ที่พักประเภทอื่นๆ
                                - ที่พักเยาวชน (Youth Hotels)
                                - คาราวานและแคมปิ้ง (Caravan and Camping)                                - บังกะโล (Bungalow)
                                - ทัวร์ริสฮอลิเดย์ (Tourist Holiday Villages)
                                - คลับเมด
                                - โมเต็ล (Motel)
                                - บ้านพักในหมู่บ้าน หรือบ้านพักในฟาร์ม (Home Stay, Farm Stay)
                                - หอพัก (Hostel, Dormitory)

3. ภัตตาคารหรือร้านอาหาร (Restaurant or Food Shop)
                อาหารเป็นสิ่งสำคัญที่นักท่องเที่ยวคาดหวังว่าจะได้รับการบริการที่ดีในการเดินทางท่องเที่ยว อย่างน้อยควรดีกว่าที่เขาได้กินอยู่ด้วยตัวเองที่บ้าน โดยบริษัทจะต้องคำนึงถึงคุณภาพ ความสะอาด ความปลอดภัยในการบริโภค ตลอดจนรสชาติและปริมาณอาหารให้เพียงพอกับนักท่องเที่ยว โดยประเภทของภัตตาคารร้านอาหารที่บริษัทนำเที่ยวนิยมนำนักท่องเที่ยวมาใช้บริการ คือ
          ประเภทของภัตตาคารหรือร้านอาหาร
3.1 ภัตตาคารร้านอาหารของท้องถิ่น
3.2 ภัตตาคารที่จัดแสดงให้แขกชมหลังอาหาร หรือระหว่างรับประทานอาหาร
3.3 ภัตตาคารร้านอาหารที่จัดแบบบุฟเฟ่ต์
3.4 ภัตตาคารร้านอาหารที่จัดรายการอาหารแบบเซ็ตมาให้
3.5 ภัตตาคารอาหารจานด่วน

4. สิ่งดึงดูดใจทางการท่องเที่ยว (Attraction)
                แหล่งท่องเที่ยวเป็นองค์ประกอบสำคัญประการแรกที่จะดึงดูดให้นักท่องเที่ยวไปเยือน นักท่องเที่ยวจะเลือกไปยังแหล่งท่องเที่ยวไหนขึ้นอยู่กับนักท่องเที่ยวแต่ละคนว่าชอบแหล่งท่องเที่ยวแบบไหน
ประเภทของสิ่งดึงดูดใจทางการท่องเที่ยว
          ประเภทของสิ่งดึงดูดใจทางการท่องเที่ยว
4.1 ประเภทธรรมชาติ
4.2 ประเภทประวัติศาสตร์ โบราณสถาน โบราณวัตถุ
4.3 ประเภทศิลปวัฒนธรรม กิจกรรม เทศกาล งานประเพณี
          การพิจารณาลเลือกแหล่งท่องเที่ยวของบริษัทนำเที่ยว
                1. สิ่งดึงดูดใจทางการท่องเที่ยว                2. โครงสร้างพื้นฐาน
                3. ร้านอาหาร                                            4. ความปลอดภัย
                5. อัธยาศัยไมตรีของชาวเมือง                  6. เทศกาลและงานประเพณี


5. บริการนำเที่ยวจากมัคคุเทศก์
                เป็นองค์ประกอบสำคัญมาก เนื่องจากเป็นผู้คอยช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวในทุกๆเรื่อง ซึ่งผู้ที่จะทำหน้าที่ตรงนี้ บริษัทนำเที่ยวควรเลือกสรรอย่างดี เพื่อให้การจัดนำเที่ยวครั้งนั้นเกิดความประทับใจ
ประเทภของมัคคุเทศก์
5.1 มัคคุเทศก์ทั่วไป (ต่างประเทศ)
5.2 มัคคุเทศทั่วไป (ไทย)
5.3 มัคคุเทศก์ (ต่างประเทศ-เฉพาะพื้นที่)
5.4 มัคคุเทศก์ (ไทย-เฉพาะพื้นที่)
5.5 มัคคุเทศก์เฉพาะ (เดินป่า)
5.6 มัคคุเทศก์เฉพาะ (ศิลปะวัฒนธรรม)
5.7 มัคคุเทศก์เฉพาะ (ทางทะเล)
5.8 มัคคุเทศก์เฉพาะ (ทางทะเลชายฝั่ง)
5.9 มัคคุเทศก์เฉพาะ (แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ)
5.10 มัคคุเทศก์เฉพาะ (วัฒนธรรมท้องถิ่น)

6. แหล่งซื้อของ (Shopping Places)
                การซื้อของเป็นหัวใจสำคัญ เพราะนักท่องเที่ยวทุกคนต้องการซื้อของที่ระลึกเก็บไว้เป็นของส่วนตัวหรือซื้อฝากคนทางบ้าน โดยเฉพาะคนไทยที่มีนิสัยเอื้อเฝื้อเผื่อแผ่ เมื่อเดินทางไปที่ใดก็จะต้องมีของฝากญาติมิตร
บริษัทนำเที่ยวจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับร้านจำหน่ายสินค้าของที่ระลึกในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆดังนี้
                6.1 ควรเป็นร้านค้าพื้นเมือง มีสินค้าขึ้นชื่อของสถานที่หรือแหล่งท่องเที่ยวนั้นๆ
                6.2 ควรเป็นร้านที่มีสินค้าคุณภาพ และราคาไม่แพงเกินไป ทางร้านมีความซื่อสัตย์เป็นที่ยอมรับ
                6.3 ควรเป็นร้านที่ตั้งอยู่ในเส้นทางที่สามารถจอดแวะ ให้นักท่องเที่ยวได้แวะซื้อในเส้นทางผ่านที่เหมาะสม
           6.4 หากจัดการเดินทางไปยังต่างประเทศหรือเมืองบริเวณเขตชายแดน ผู้วางแผนจัดรายการนำเที่ยวควรให้เวลาลูกค้าสำหรับเลือกซื้อสินค้าจากร้านค้าปลอดภาษีที่อยู่ตามสนามบิน ตามแหล่งท่องเที่ยวด้านการค้า หรือตามแนวชายแดน
ลักษณะของสินค้าที่ระลึก
          1. เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นในท้องถิ่นนั้น และมีลักษณะเป็นเอกลักษณ์ เป็นจุดเด่นที่สามารถเป็นตัวแทนของท้องถิ่นนั้นๆ
          2. เป็นผลิตภัณฑ์ที่หายาก มีแต่ในแหล่งท่องเที่ยวนั้นๆ เป็นต้นกำเนิด
          3. เป็นผลิตภัณฑ์ราคาถูกเมื่อซื้อในแหล่งผลิตนั้นๆ
          4. เป็นสินค้าที่หาซื้อง่าย
          5. เป็นสินค้าที่ใช้วัสดุในท้องถิ่นนั้นๆ
          6. เป็นสินค้าที่ได้รับการออกแบบและผลิตอย่างปราณีตงดงาม คุ้มค่าในการซื้อ
          7. เป็นสินค้าที่มีการสาธิตขั้นตอนในการผลิตให้นักท่องเที่ยวชม
          8. เป็นสินค้าที่มีรายละเอียดอธิบายส่วนประกอบต่างๆ ของผลิตภัณฑ์


คุณสมบัติของผู้วางแผนจัดรายการนำเที่ยว
          1. ต้องซื่อสัตย์ ไม่แสวงหาผลประโยชน์จากสถานประกอบการหรือจากมัคคุเทศก์
          2. วางตัวเป็นกลาง ไม่แอนเอียงเลือกที่รักมักที่ชัง
          3. ต้องมีความสามรถในการรู้จักเรียนรู้ประเภทของลูกค้า และAgent
          4. ต้องจัดงานตามความสามารถของมัคคุเทศก์ ให้เกียรติเพื่อนร่วมงาน
          5. มีความสามารถในการเสนอทางเลือกสินค้าและบริการได้หลากหลาย
          6. สามารถประสานงานได้ดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง
          7. มีความอดทน เสียสละ เพื่อให้งานสำเร็จ

จรรยาบรรณของผู้วางแผนจัดรายการนำเที่ยว
          1. ควรจัดตามรายการ ไม่ต้ดทอน หรือเปลี่ยนแปลงรายการ
          2. ไม่จัดทัวร์ผิดกฎหมาย หรือศิลธรรม
          3. มีสามัญสำนึกในการจัดงาน
          4. ไม่วิจารณ์การทำงานของมัคคุเทศก์หรือเพื่อนร่วมงาน
          5. แสดงความจริงใจและความรับผิดชอบในการทำงาน
          6. ไม่เลือกเฉพาะสถานบริการที่ตนเองได้ประโยชน์


วันอังคารที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2560

HW204 การวางแผนและดำเนินการจัดนำเที่ยว บทที่1




บทที่1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับธุรกิจนำเที่ยว
และการวางแผนจัดรายการนำเที่ยว
-----------------------------------------------------------------------------------------------------

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับธุรกิจจัดนำเที่ยว
ธุรกิจนำเที่ยว
เป็นธุรกิจเกี่ยวกับการจัดการ หรือการให้บริการ หรืออำนวยความสะดวกเกี่ยวกับการเดินทาง สถานที่พัก อาหาร ทัศนาจร และ/หรือมัคคุเทศก์ ให้แก่นักท่องเที่ยว

ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยว
ผู้ได้รับใบอนุญาติประกอบธุรกิจนำเที่ยว ตามพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์

ภาพโดย http://newdot2.samartmultimedia.com/home/details/6/189/2218

----------------------------------------------------------------

ธุรกิจจัดนำเที่ยว (Tour Operator)
                ธุรกิจจัดนำเที่ยว หมายถึง บุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ดำเนินกิจการเกี่ยวกับการจัดนำเที่ยว ทั้งภายในประเทศหรือไปต่างประเทศ ในขณะเดียวกันก็อาจเป็นตัวแทนท่องเที่ยว รับจัดขายตั๋วเครื่องบิน รถไฟ หรือรับจองโรงแรมไปในตัวด้วย
          ซึ่งจัดนำเที่ยวประเภทใดประเภทหนึ่งหรือหลายประเภท โดยมีหน้าที่ความรับผิดชอบดังต่อไปนี้
                1. จัดโปรแกรมนำเที่ยวขายโดยตรงให้กับลูกค้าทั่วไป
                2. จัดโปรแกรมนำเที่ยวโดยขายผ่านบริษัทตัวแทนท่องเที่ยว
                3. จัดโปรแกรมนำเที่ยวโดยผ่านบริษัทนำเที่ยวต่างประเทศ
                4. จัดโปรแกรมนำเที่ยวตามความต้แงการของหน่วยงานหรือองค์กร

สาเหตุที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เลือกใช้บริการกับบริษัทนำเที่ยว
1. ประหยัดค่าใช้จ่าย                                       2. สะดวกสบายทั้งกายและใจ
3. ปลอดภัย                                                     4. มีความรับผิดชอบ
5. มีคนคอยบริการ                                          6. ได้เพื่อนใหม่
7. รู้แหล่งซื้อของ                                            8. ได้รับความรู้
9. มีกำหนดการเดินทางที่แน่นอน                  10. สามารถประมาณค่าใช้จ่ายล่วงหน้าได้
11. ประหยัดเวลาการเดินทาง

สรุปเหตุผลที่นักท่องเที่ยวนิยมใช้บริการกับบริษัทนำเที่ยว
เหตุผลที่นักท่องเที่ยวนิยมใช้บริการกับบริษัทนำเที่ยว (Mancini, 1990:2)
                1. เวลาไปเที่ยวไม่ต้องกังวลเรื่องต่างๆ
                2. ต้องการประหยัดเงินและเวลา
                3. บริษัทนำเที่ยวจะจัดรายการนำเที่ยวได้น่าสนใจ
                4. ได้รับความรู้ในด้านต่างๆ
                5. บางจุดหมายปลายทาง การไปกับบริษัทนำเที่ยวจะทำให้เกิดความราบรื่น สะดวกสบายกว่า


----------------------------------------------------------------

ธุรกิจตัวแทนท่องเที่ยว
                ธุรกิจตัวแทนท่องเที่ยว (Travel Agent) หมายถึง บุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่จัดตั้งกิจการดำเนินงานเกี่ยวกับธุรกิจการเดินทางและท่องเที่ยว รับจองตั๋วเครื่องบิน รถไฟ และที่พัก ตลอดจนเป็นตัวแทนขายโปรแรมนำเที่ยวให้กับบริษัทนำเที่ยว
                การดำเนินงานของธุรกิจตัวแทนท่องเที่ยวเปรียบเสมือนเป็นตัวกลางระหว่างลูกค้ากับผู้ประกอบการธุรกิจผลิตสินค้าบริการท่องเที่ยว เช่น สายการบิน บริษัทเดินเรือ โรงแรม เป็นต้น
                  1. เป็นตัวแทนขายสินค้าการท่องเที่ยว
                  2. เป็นผู้จัดนำเที่ยวให้กับลูกค้าโดยตรง

                ความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทจัดนำเที่ยวกับบริษัทตัวแทนท่องเที่ยว
                  - บริษัทนำเที่ยว หมายถึง องค์กรหรือหน่วยงานทำการผลิตรายการนำเที่ยว หรือ Package Tour
             - บริษัทตัวแทนท่องเที่ยว หมายถึง องค์กรหรือหน่วยงานที่รับหรือนำ Package Tour ที่ผลิตโดยบริษัทนำเที่ยวมาขาย



ความแตกต่างระหว่างบริษัทจัดนำเที่ยวกับบริษัทตัวแทนท่องเที่ยว

 ธุรกิจตัวแทนท่องเที่ยว Travel Agent
 ธุรกิจจัดนำเที่ยว Tour operator
 1. ขายสินค้าบริการแทนผู้ผลิตดดยได้รับค่าตอบแทนในรูปของนายหน้า
2. ไม่ต้องรับผิดชอบในสินค้าและบริการนั้นๆ
3. ถือเป็นผู้ค้าปลีก
4. ขายสินค้าแทนผู้ผลิตได้หลายๆราย
1. ซื้อส่วนต่างของสินค้าจากผู้ผลิตในราคาที่ลดแล้วนำมาขายต่อทำกำไร
2. รับผิดชอบในสินค้าที่ผลิตขึ้น
3. ถือว่าเป็นผู้ผลิต
4. ติดต่อโดยตรงกับผู้บริโภคน้อยกว่า (นอกจากเปิดกิจการค้าปลีกเอง)


----------------------------------------------------------------


โครงสร้างการบริหารงานของบริษัทนำเที่ยว

1. ความสำคัญในการจัดโครงสร้างของธุรกิจนำเที่ยว
          ธุรกิจนำเที่ยวจะมีแผนที่รับผิดชอบงานที่ทีหน้าที่แตกต่างกัน แต่จะมีความเกี่ยวข้องกันเป็นลูกโซ่ การมีแผนผังโครงสร้างการบริหารงาน การแบ่งงานในหน้าที่รับผิดชอบอย่างชัดเจน ตามกำลังความสามารถจะมีส่วนช่วยให้งานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

2. ฝ่ายงานในบริษัทนำเที่ยวและหน้าที่รับผิดชอบ
          2.1 แผนกบุคคลและมัคคุเทศก์ มีหน้าที่บริหารงานบุคคลภายในบริษัท จัดหามัคคุเทศก์ที่มีความเหมาะสมกับรายการนำเที่ยว
          2.2 แผนกจัดนำเที่ยวอิสระ มีหน้าที่จัดบริการนำเที่ยวเฉพาะบุคคลหรือครอบครัว
          2.3 แผนกจัดนำเที่ยวเป็นกลุ่ม และเพื่อเป็นรางวัล มีหน้าที่จัดบริการนำเที่ยวเฉพาะกลุ่ม หรือการนำเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลแก่พนักงาน
          2.4 แผนกจัดรายการนำเที่ยว มีหน้าที่จัดรายการนำเที่ยวต่างๆ เป็น Package Tour ครบวงจร
          2.5 แผนกจัดนำเที่ยวภายในประเทศ (Inbound) มีหน้าที่จัดนำเที่ยวให้แก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาท่องเที่ยวเมืองไทย
          2.6 แผนกจัดนำเที่ยวนอกประเทศ(Outbound) มีหน้าที่จัดนำเที่ยวให้คนในประเทศไปเที่ยวยังต่างประเทศ 
          2.7 แผนกจัดนำเที่ยวไทยภายในประเทศ (Domestic) มีหน้าที่จัดนำเที่ยวให้กับคนไทยท่องเที่ยวภายในประเทศ
          2.8 แผนกบริหาร มีหน้าที่วางนโยบายการทำงานของบริษัทกับแผนกอื่นๆ ดูแลงานด้านธุรกิจทั้งหมด และดูแลงานเกี่ยวกับบุคลากร
2.9 แแผนกขายและการตลาด มีหน้าที่ศึกษาข้อมูลทางการตลาด จัดทำแผนการตลาด ขายสินค้าต่างๆของบริษัท
2.10 *แผนกปฏติบัติการนำเที่ยว (Tour operator) มีหน้าที่สำรองบริการกับผู้ประกอบการธุรกิจผลิตสินค้าบริการท่องเที่ยว ประสานงานเรื่องการเดินทาง การคิดต่นทุน กำหนดราคาขาย จัดหาผู้นำเที่ยว และอื่นๆ
2.11 แผนกยานพาหนะ มีหน้าที่ติดต่อเช่ายานพาหนะในการเดินทาง จัดมอบหมายให้คนขับรถไปกับนักท่องเที่ยว
2.12 แผนกเอกสารธุรการ มีหน้าที่ทำงานด้านธุรการต่างๆ
2.13 แผนกรับจองและขาย มีหน้าที่รับจองจากลูกค้า ออกเสนอขายสินค้าของบริษัท
2.14 แผนกแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ มีหน้าที่ในการแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศให้แก่ลูกค้า(Inbound)


รูปแบบโครงสร้างการบริหารงานของบริษัทนำเที่ยว

1. โครงสร้างการบริหารงานแบบแนวตั้ง

เป็นโครงสร้างที่เน้นบุคคลเดียวให้สามารถทำหน้าที่ทุกอย่างตั้งแต่ต้นจนจบ
ผลดี
1. ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบงานจะเป็นผู้ที่รู้จักสินค้าเป็นอย่างดี
2. สามารถคุมโครงการได้
3. เป็นการเน้นความสามารถพิเศษ
ผลเสีย
1. คนเดียวไม่น่าจะมีความสามรถทุกอย่างลึกซึ้ง
2. เมื่อเกิดเจ็บป่วยไม่มีใครสามารถทำแทนได้

- พบกับองคงค์กรที่จัดนำเที่ยวเพื่อติดตามผลหรือหารือสำหรับการจัดนำเที่ยวปีต่อไป
- ประเมินผลการนำเที่ยวจากการวิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสอบถาม
- ประเมินผลกำไรขาดทุนหลังสิ้นสุดการเดินทาง
- เดินทางไปกับกลุ่มในฐานะผู้นำเที่ยว
- เตรียมเอกสารและคำแนะนำสำหรับการเดินทาง
- เตรียมเอกสารสำหรับลูกค้า
- ยืนยันครั้งสุดท้ายสำกับธุรกิจผลิตสินค้าบริการท่องเที่ยว
- ติดต่อธุรกิจผลิตสินค้าบริการท่องเที่ยวกับเอกสาร ข้อตกลง
- ให้รายละเอียดแก่ผู้ที่สนใจ รับจอง และขายสินค้า
- การตลาด ประชาสัมพันธ์ ส่งเสริมการขาย
- จัดทำเอกสารนำเที่ยว วางแผนทางการตลาด
- คิดราคาต้นทุน กำไร เพื่อกำหนดราคา
- ติดต่อธุรกิจผลิตสินค้าบริการการท่องเที่ยว
- เขียนรายการนำเที่ยว
- จัดวางแผนการจัดนำเที่ยว

2. โครงสร้างการบริหารงานแบบแนวนอน

เป็นการจัดโครงสร้างตามการบริหารงาน หน้าที่ความรับผิดชอบในการทำงาน โครงสร้างรูปแบบนี้จัดดำเนินการในบริษัทนำเที่ยวขนาดใหญ่ ที่มีบุคลากรจำนวนมาก แต่ละแผนกจะรับผิดชอบเฉพาะงาน


3. โครงสร้างการบริหารงานแบบผสม

บริษัทนำเที่ยวบางบริษัทอาจจะใช้รวมโครงสร้างแบบแนวตั้ง และแนวนอนไว้ด้วยกัน จะให้มีน้อยแผนกแต่มากหน้าที่


----------------------------------------------------------------

การวางแผนการจัดนำเที่ยว (การทำโปรแกรมทัวร์)
                การวางแผน หมายถึง กระบวนการดำเนินการที่กำหนดขึ้นโดยองค์กร หรือหน่วยงานเพื่อปฏิบัติการภารกิจใดๆ ที่กำหนดไว้ให้บรรลุได้ในอนาคตอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุด
                การวางแผนจัดนำเที่ยว หมายถึง การวางแผนและการตัดสินใจเลือกองค์ประกอบในการจัดนำเที่ยวที่ดีที่สุด เหมาะสมที่สุด จากสถานประกอบการที่เกี่ยวข้องแต่ละด้าน

การวางแผนการจัดนำเที่ยวสำหรับคนทั่วไป
คำพูดที่ได้ยินบ่อยๆ จากนักท่องเที่ยวที่ขาดการวางแผนการเดินทางล่วงหน้า เช่น
1. ไม่นึกว่าจะหนาวขนาดนี้
2. เราโดนร้านค้าหลอกขายของแพง
3. ฉันหาซื้อของฝากที่ถูกใจไม่ได้
4. ตังหมดแล้วเที่ยวไม่สนุกเลย
5. ทำไมค่าห้องแพงจัง รู้อย่างนี้นอนอยู่กับบ้านดีกว่า
6. โหย! คนอย่างกับมด แน่นมาก หมดสนุกเลย
7. ว้า! วันนี้เขาปิดทำการ ทำไงดี จะไปที่ไหนต่อล่ะทีนี้
8. ไม่เห็นมีอะไรเลย สวยก็ไม่สวย มาทำไมก็ไม่รู้

การเตรียมความพร้อมด้านข้อมูล
ดังนั้นการเตรียมความพร้อมด้านข้อมูลก่อนที่จะเดินทางท่องเที่ยวด้วยตนเองสามารถทำได้ง่ายๆ คือ
1. สอบถามจากผู้รู้ หรือผู้ที่เคยเดินทางมาแล้ว
2. สอบถามจากสำนักงานที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวต่างๆ
3. ศึกษาจากแหล่งหนังสือเอกสารต่างๆ



ข้อมูลที่ควรรู้ล่วงหน้าเพื่อใช้ในการวางแผนล่วงหน้าด้วยตนเอง
1. ภูมิประเทศ ภูมิอากาศของสถานที่ท่องเที่ยว
     - เป็นภูเขา
     - เป็นทะเล
5. ค่าใช้จ่าย

2. การเดินทาง
     - เส้นทางเป็นแบบใด
     - จะเดินทางต่อไปยังสถานที่อื่นได้อย่างไร
     - ไปโดยยานพาหนะแบบไหน ใช้เวลาเท่าไร่
     -จะขับรถไปเอง หรือจองล่วงหน้ากี่วัน
6. ข้อควรระวัง
     - ห้ามใส่รองเท้าเข้าอุโบสถของวัด ห้ามกอดจูด
     - ห้ามแตะต้องหญิงสาวของชนเผ่า

3. การกินอยู่
     -มีร้านค้าในแหล่งท่องเที่ยว หรือระหว่างทางไหม
     -ในแหล่งท่องเที่ยวมีร้านขายอาหารสำหรับนักท่องเที่ยวไหม
7. ของใช้ส่วนตัวต่างๆ

4. ที่พัก
     - ได้บ้านหลัง หรือเต้น หรือโรงแรมหรู
     - จะเลือกแบบถูกแต่ไกล หรือแบบใกล้แต่แพง
8. ความสามารถหรือศักยภาพส่วนตัว
     - ระยะเวลาการท่องเที่ยว
     - รายได้ ค่าใช้จ่าย
     - สภาพร่างกาย
     - ภาษา


การประเมินตนเองเพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
                ทั้งนี้การวางแผนท่องเที่ยวด้วยตนเองให้ผลดีได้นั้น ก่อนอื่นต้องรู้ตัวเองก่อนว่าต้องการท่องเที่ยวรูปแบบใด เพราะจะส่งผลต่อการเตรียมความพร้อมในการท่องเที่ยวครั้งนั้นๆ
1. ชอบสบายๆ ไปนอนเล่นแล้วก็ตื่นสายๆ
2. ชอบเที่ยวปราสาทโบราณสถานเก่าๆ แล้วนึกถึงความยิ่งใหญ่ในอดีต
3. ชอบเที่ยวตามเทศกาล สวนสนุก ที่มีคนเยอะๆ ชอบความครึกครื้น
4. ชอบซื้อของเป็นชีวิตจิตใจ
5. ชอบไปดูพิพิธภัณฑ์ทางวิทยาศาสตร์
6. ชอบอาบน้ำแร่ แช่น้ำตก เที่ยวเชิงสุขภาพ
7. ชอบแบบลุยๆ ท้าทายความสามารถ
8. ชอบเล่นกีฬา วินเซิร์ฟ เรือใบ สกูตเตอร์

ประโยชน์และความสำคัญของการวางแผนจัดนำเที่ยวต่อธุรกิจนำเที่ยว
1. เป็นการเตรียมการเพื่อจองสถานประกอบการต่างๆ ให้พร้อมและชัดจน
2. เป็นการจัดเตรียมการเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้นำเที่ยว
3. เป็นเครื่องชี้ให้เห็นถึงความรับผิดชอบในการจัดนำเที่ยวอย่างเป็นระบบ
4. ได้สามารถปรับตัว รู้เท่าทัน สามารถจัดวางแผนจัดนำเที่ยวของตนเองให้เหนือกว่าคู่แข่ง
5. สามารถประมาณค่าใช้จ่ายได้ถูกต้อง ชัดเจน
6. ได้รู้สภาพทั่วไปในเรื่องต่างๆ เพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการเสนอขาย
7. เป็นการสร้างสัมพันธ์โดยตรงที่ดีให้เกิดข้นกับสถานประกอบการ
8. เป็นกระบวนการเพื่อให้ทกฝ่ายทราบถึงทิศทางและแนวทางในการปฏิบัติ
9. เป็นการป้องกัน หรือลดความเสี่ยงไม่ให้เกิดขึ้นต่อการทำงานในอนาคต
10. การวางแผนทำให้เกิดการประหยัด เพราะได้เลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุด


(-)ปัจจัยด้านลบที่ส่งผลกระทบต่อการวางแผนจัดรายการนำเที่ยว
1. สภาพภูมิอากาศเปลี่ยนไป
2. คู่แข่งทำการตลาดช่วงชิงการได้เปรียบ
3. ไม่สามารถหาสถานประกอบการได้ตามที่ต้องการ
4. ผู้วางแผนทำงานผิดพลาดไม่มีความสามารถเพียงพอ
5. ลูกค้าเกิดการเปลี่ยนใจกระทันหัน
6. มีสถานการณ์ที่ส่งผลต่อการท่องเที่ยวเกิดขึ้น เช่น เกิดโรคระบาด
7. ผู้วางแผนหรือผู้ประสานงานเดิมมีปัญหา
8. บางครั้งมีข้อจำกัดเรื่องความต้องการของนักท่องเที่ยวไม่สอดคล้องกับความสามารถในการจัดการและระยะเวลาที่มี
9. สถานประกอบการที่เกี่ยวข้องทำงานผิดพลาด
10. ผู้เกี่ยวข้องทำงานเพื่อผลประโยชน์ต่อตัวเอง โดยไม่คำนึงถึงผลเสียที่มีต่อบริษัท

(+)ปัจจัยด้านบวกที่เอื้อต่อการวางแผนจัดรายการนำเที่ยว
1. สภาพภูมิอากาศเป็นใจ
2. มีตัวแทนจำหน่ายที่ซื่อสัตย์ มีคุณภาพ ไม่ทำทัวร์ศูนย์เหรียญ
3. ลูกค้ามีงบประมาณสูง เจรจาง่าย ไม่เรื่องมาก
4. ผู้วางแผนจัดนำเที่ยวมีความรู้ มีประสบการณ์สูง
5. บริษัทนำเที่ยวได้รับความไว้วางใจจากสถานประกอบการที่เกี่ยวข้อง (มีเครดิต)
6. บริษัทมีภาพพจน์ที่ดี ชื่อเสียงที่ดี เช่น ถ้าไปเที่ยวญี่ปุ่นเราก็จะนึกถึง HIS
7. บริษัทจัดนำเที่ยวมีสินค้าและบริการที่มีลักษณะเป็นเอกลักษณ์

8. ได้ช่วงเวลาเดินทางท่องเที่ยวที่เหมาะสม

ผลลของการวางแผนจัดรายการนำเที่ยวที่ดี
1. มีนักท่องเที่ยวสนใจและตอบรับในรายการนำเที่ยวนั้นอย่างดี
2. บริษัทนำเที่ยวมีกำไรไม่ต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้

3. มัคคุเทศก์สามารถนำเที่ยวได้ตามโปรแกรมอย่างไหลลื่นไม่ติดขัด